
10 สิ่งควรรู้ก่อนการเริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์
เราอาจคิดว่า การทำ Dropship มันง่าย แต่เปิดร้านค้าออนไลน์ หาของมาลงแล้วก็ขายได้เลยรอรับเงินสบายๆแต่หารู้ไม่ นั่นคือความคิดที่ไม่ถูกต้อง! ไม่เสมอไปที่การทำแบบนั้นจะทำให้คุณได้ลูกค้ามาง่ายๆการเริ่มทำร้านค้าออนไลน์อาจเป็นการลงทุนที่เสียทั้งเงินและเวลา ดังนั้น เราจึงรวบรวม 10 สิ่งควรรู้ก่อนการเริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์ มาให้แล้ว
1. เปิดร้านค้าออนไลน์แบบไหนดี
การเปิดร้านค้าออนไลน์นั้นมีต้นทุนของแต่ละช่องทางการขายที่ไม่เหมือนกัน หากเราเปิดเว็บไซต์ของตนเอง ก็จะมีค่าจดทะเบียนเว็บไซต์ ค่าเซิร์ฟเวอร์ ค่าออกแบบ ค่าเขียนโปรแกรม ค่าการยิงโฆษณา Google และอื่นๆอีกมากมาย และถึงแม้เราจะเลือกใช้ช่องทาง แพลตฟอร์มดิจิทัล (digital platform) ตลาดออนไลน์(marketplace) เช่น Lazada, Shopee, Facebook, Instagram, TikTok แต่ละแพลตฟอร์มล้วนมีค่าธรรมเนียม และค่าโฆษณา ไม่เหมือนกัน เราควรให้ความสำคัญกับการคำนวนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ดีก่อนการลงทุน สิ่งที่สำคัญที่ต้องสังเกต คือ เราขายสินค้าแบบไหน กลุ่มลูกค้าเรานิยมใช้แพลตฟอร์มไหนในการสั่งสินค้า ความสามารถในการทำโฆษณา เช่น การเชื่อมต่อ Google Ads (SEO) และตัวเลือกและความยืดหยุ่นในการจัดโปรโมชั่นที่หลากหลาย และเมื่อร้านค้าของเราเติบโตขึ้นแพลตฟอร์มก็ต้องมีสักยภาพในการไปเชื่อมต่อเครื่องมืออื่น เช่น การใช้แชทบอท เป็นต้น
2. สร้างความเป็นตัวตน
ไม่ว่าเราจะเลือกขายในช่องทางไหนก็ตาม เราต้องสร้างความเป็นตัวตนของเราขึ้นมาเป็น แบรนด์ดิ้ง (Branding) คือ การสร้างอัตลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำเราได้นั่นเอง อัตลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นมานี้ จะช่วยให้ลูกค้า จดจำเราได้ง่ายขึ้น เข้าถึงเราง่ายขึ้น และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะที่จะแยกเราออกจากคู่แข่งอื่น ร้านค้าออนไลน์ของเราต้องตกแต่งตามอัตลักษณ์ที่เราสร้างไว้ด้วย
3. เลือกรูปแบบการนำเสนอสินค้าให้ดี
ร้านค้าหลายร้านคิดว่าเพียงแค่มีเว็บไซต์หน้าหนึ่งที่แสดงภาพสินค้าที่ขายทั้งหมดก็พอแล้ว แต่นั่นคือคิดผิด! หน้าแรกของเว็บก็เหมือนหน้าร้าน เราควรกำหนดให้แสดงสินค้าที่โดดเด่น และมีข้อความเชื้อเชิญที่น่าสนใจ เหมาะสมกับการทำ SEO การแยกสินค้าออกตามประเภทและหมวดหมู่จะทำให้การเสนอขายง่ายขึ้นด้วย
4. ความง่ายในการใช้งาน
สิ่งที่หลายคนพลาดไปเมื่อเลือกใช้ช่องทางการขายแบบสำเร็จรูป คือการไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด และอาจไม่เคยลองใช้เองในฐานะผู้ซื้อมาก่อน จึงไม่รู้ว่าความจริงแล้ว แพลตฟอร์มนั้น ใช้งานง่ายแค่ไหน มีฟังก์ชั่น อย่างไรบ้าง แล้วจะแนะนำการใช้งานให้ลูกค้าได้อย่างไรหากติดปัญหาในการสั่งซื้อสินค้า ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกใช้อะไร ควรศึกษาการใช้งานให้ดี
5.รู้จักคู่เเข่ง
เราต้องทำการศึกษาคู่แข่งในตลาดออนไลน์ให้ดี กดเข้าไปดูพวกเค้าบ่อยๆ ช่องทางการขายของพวกเขาเป็นอย่างไร การนำเสนอสินค้าเป็นอย่างไร เราจะสามารถนำส่วนที่ดีมาปรับปรุงร้านค้าของเราได้ และระวังในส่วนที่เป็นความเสี่ยง และ ลดข้อผิดพลาด
6.รู้จักลูกค้า
เมื่อขายของไปเรื่อยๆและมีลูกค้ามากขึ้น เราต้องทำการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าของเรา ทำไมพวกเขาถึงกลับมาซื้อกับเรา หรือไม่กลับมาซื้อกับเรา ลูกค้าเป็นคนแบบไหน ชอบอะไร สั่งซื้อผ่านช่องทางไหนการรู้จัดลูกค้าจะทำให้เราสามารถปรับปรุงการบริการของเราให้เหมาะสมกับพวกเค้าได้ และจะช่วยให้เราหาลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย
7. ช่องทางการชำระเงิน
การชำระเงินด้วยการถอนนั้น ปัจจุบันเป็นเรื่องที่ง่ายมากเพราะทุกคนล้วนมีแอปสำหรับโอนเงินในมือถือ การมีช่องทางเดียวในการรับชำระเงินนั้นไม่ใช่เรื่องแย่ แต่หากร้านเราเติบโตขึ้น การเพิ่มความหลากหลายในช่องทางการชำระเงิน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ได้มากขึ้นด้วย เช่น การเก็บเงินปลายทาง (Cash On Delivery), การรับบัตรเครดิต, การผูกกับกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (e-Wallet) ต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้ อย่าลืมศึกษาค่าธรรมเนียมสำหรับช่องทางการรับชำระเงินต่างๆด้วย
8. การจัดส่งสินค้า
รู้หรือไม่ การจัดส่งสินค้าเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อ ปัญหาในการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดส่งราคาแพง สินค้าเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง การคำนวนขนาดพัสดุผิดพลาด เป็นต้น ดังนั้นเราควรเลือกพาร์ทเนอร์ขนส่งที่เชื่อถือได้
9. การโปรโมทและการซื้อโฆษณา
การขายสินค้าออนไลน์มีการแข่งขันสูง และในยุคสมัยนี้ที่การสื่อสารในโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้ง่าย คอนเทนต์เป็นหัวใจหลักของการตลาดทุกอย่าง คอนเทนต์คือสื่อที่เราสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เช่นป้ายแบนเนอร์ รูปภาพ วิดีโอ บทความ เป็นต้น การสร้างสื่อคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยให้ร้านของเรามีความน่าสนใจมากขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
10. การปฏิบัติตามกฏหมาย
แน่นอนว่าเราต้องทำตามกฏหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง เราควรศึกษากฏหมายเกี่ยวกับการค้า เช่นทะเบียนการค้า ระเบียบที่เกี่ยวกับการขาย สินค้าลิขสิทธิ์ สินค้าเฉพาะทางที่ต้องมีใบอนุญาติ สินค้าอันตราย เป็นต้น เพื่อให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น