กระแสแรง! แซงทุกช่องทางการขาย คงหนีไม่พ้น วิธีการขายของ
แบบสมัครตัวแทนจำหน่าย DROPSHIP ขายของไม่ต้องสต๊อกสินค้า
เพื่อนๆหลายคน คงมีความคิดขึ้นมาสักแว๊บในหัว ว่าอยากหารายได้เพิ่ม แต่ไม่อยากลงทุน เราหาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือเป็นตัวแทน Dropship บ้างดีกว่า ว่าแต่ทราบกันหรือยังว่า ตัวแทน Dropship คืออะไร และการขายแบบนี้เป็นยังไง วันนี้ ขอนำข้อมูลดีๆมาฝากกันค่ะ
ตัวแทนจำหน่ายแบบ Dropship คืออะไร
ข้อดีของ Dropship การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Dropship จะเหมาะกับผู้ที่กำลังเริ่มทำธุรกิจ หรือมีหน้าร้านออนไลน์ แต่ยังมีสินค้าไม่หลากหลาย และต้องการเพิ่มฐานลูกค้า มีข้อดีดังต่อไปนี้
1.ไม่ต้องลงทุน เพียงแค่ตกลงกับซัพพลายเออร์ไว้ ก็เริ่มนำสินค้าไปขายได้ทันที
2.ลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจ เริ่มต้นค้าขายง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เพราะไม่ต้องซื้อสินค้ามาสต๊อก ทำให้มีเงินไปลงทุนด้านอื่น ๆ
3.ลดค่าใช้จ่ายโกดังเก็บของ ไม่ต้องเสียเงินเช่าโกดังเก็บสินค้าอีกต่อไป เพราะสินค้าอยู่ที่ผู้ให้บริการ
4.ไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเอง ประหยัดค่าบริหารจัดการ เราเพียงแค่สั่งสินค้า ผู้ผลิตจะดำเนินการส่งสินค้าไปยังลูกค้าทันที
5.ขายจากที่ไหนก็ได้ ไร้ข้อจำกัดทางที่อยู่ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ขอเพียงมีมือถือและอินเตอร์เน็ต เราก็ขายได้
6.มีสินค้าหลากหลาย เพราะไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอง เราจึงมีความยืดหยุ่นในการเลือกสินค้าได้อย่างหลากหลายเพื่อเข้าถึงลูกค้าของเรา
7.เพิ่มฐานลูกค้าในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งสินค้ามีหลากหลายมากเท่าไร ก็ยิ่งดึงดูดลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากเท่านั้น
ตัวแทนจำหน่ายแบบ Dropship คืออะไร
ขั้นตอนการขายแบบไม่สต๊อกสินค้า
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบบ Dropship มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.ค้นหาสินค้าและผู้ให้บริการ Dropship ที่ดี มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ
2.สมัครตัวแทนจำหน่าย Dropship กับผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการ
3.รับคู่มือการจำหน่ายสินค้าจากผู้ให้บริการ Dropship
4.ลงรูปภาพและรายละเอียดของสินค้าบนหน้าร้านออนไลน์
5.รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า
6.ส่งคำสั่งซื้อไปยังผู้ให้บริการ Dropship
7.ผู้ให้บริการ Dropship ส่งสินค้าไปยังลูกค้าในนามของตัวแทน
วิธีการเลือกสินค้าเพื่อจัดจำหน่าย
แม้ว่าเราจะมีร้านค้าอยู่แล้ว แต่เราควรจะคัดเลือกสินค้าที่จะจัดจำหน่ายในร้านค้าของเรา
เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยมีหลักพิจารณาดังนี้
• เลือกสินค้าดี มีคุณภาพ ในราคาเป็นธรรม โดยพิจารณาจากสินค้าเป็นหลัก อย่าเลือกสินค้าที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะสินค้าอาจขาดคุณภาพ ไม่มีการรับประกันสินค้า ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในอนาคต ทำให้ลูกค้าไม่พอใจและไม่กลับมาซื้อซ้ำ แถมบางครั้งยังหักคะแนนร้านค้าอีกต่างหาก ดังนั้น จึงควรเลือกสินค้าจากคุณภาพเป็นหลัก แล้วพิจารณาราคาที่เป็นธรรมเป็นลำดับต่อมา
• เลือกสินค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยสำรวจความต้องการและรสนิยมของลูกค้าหรือความต้องการในตลาดขณะนั้น และหากสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า Pain Point ได้อย่างตรงจุด ก็จะช่วยให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้น
• เลือกผู้ให้บริการ Dropship ที่ดี โดยเลือกผู้ให้บริการที่มีความเป็นมืออาชีพ มีการตรวจสอบสินค้าก่อนจัดส่ง มีระบบการรับประกันสินค้า มีการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วฉับไว และสามารถรักษามาตรฐานสินค้าและบริการไว้ได้เป็นอย่างดี